การซื้อโน๊ตบุ๊คในยุค 2021
สำหรับผู้ที่ไม่ได้ เปลี่ยนคอมพิวเตอร์ Notebook มานาน แล้วกำลังต้องการที่จะซื้อ โน้ตบุ๊คหรือคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ ในปัจจุบันนี้ อาจจะมีเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปค่อนข้างมากจากเดิม
ที่ปกติจากเดิมเรามักจะมองคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คที่ราคา น้ำหนัก หรือการเก็บข้อมูลเป็นต้น
แต่ปัจจุบันนี้การพิจารณาต่างๆ อาจจะต้องมีการพิจารณาด้านอื่นเพิ่มเติม การซื้อโน๊ตบุ๊คในยุค 2021 ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ลองติดตามอ่านจากบทความนี้ได้เลย
1.ความสามารถของโน๊ตบุ๊ค
เราอาจจะได้ยินคำว่า Core i หรือ RYZEN แล้วตามด้วยหมายเลขต่างๆ ซึ่งนี่คือรหัสการบอกการทำงานของ Notebook ดังกล่าว
หากต้องการเน้นการใช้งานด้านเอกสารธรรมดา เลือก Core i3 หรือ RYZEN 3 ก็เพียงพอต่อการใช้งาน
แต่ถ้าพบรหัสตัวเลขที่มากขึ้นไปเรื่อยๆนั่นหมายถึงการ ทำงานที่มีความสามารถสูงขึ้นไปเรื่อยๆนั่นเอง
เช่น F
core i 5 หรือ RYZEN 5 มีความสามารถในการทำงานกราฟิกมากขึ้น เช่นการต่อตัดต่อภาพ
core i 7 หรือ RYZEN 7 เล่นเกมได้คล่องขึ้น ทำงานกราฟิกและเอกสารให้ดีกว่า
core i9 หรือ RYZEN 9 แล้ว ซึ่งจะเป็นการทำงานที่ดีที่สุด เร็วที่สุดในทุกด้าน
ส่วนตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ต่อท้ายจากตัวเลขจะพบคำว่า U และคำว่า K ซึ่งจะมีความหมายว่า
U จะทำงานช้ากว่ารหัสตัวอักษร K นั่นเอง
2.การ์ดจอ
สามารถเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ notebook ได้ 2 แบบนั้นก็คือ การ์ดจอออนบอร์ดและการ์ดจอแยก
สำหรับการ์ดจอออนบอร์ดเหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานด้านเอกสาร ดูหนัง ฟังเพลง
แต่ถ้าเป็นการ์ดจอแยก จะเหมาะกับผู้ที่ต้องการเน้นทำงานด้านกราฟฟิก
3.แรมภายในตัวเครื่องNotebookหรือคอมเตอร์
แนะนำว่าให้ซื้อแบบ Ram 8 GB หรือ 16 GB ขึ้นไป ซึ่งจะสามารถทำงานด้านเอกสารหรือดูหนังฟังเพลงได้ดี สามารถเปิดหน้าต่างอื่นๆ ร่วมด้วย โดยเครื่องจะไม่ช้าเกินไป
ถ้าเน้นด้าน Media และกราฟิกหนักๆ ควรจะเลือกแรม 32 GB ขึ้นไป
4.ความจำในตัวเครื่อง
ในยุคปัจจุบันนี้ให้เน้นหนักไปทางความจำแบบ SSD เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะผู้ใช้งานจะได้โน้ตบุ๊คหรือคอมพิวเตอร์ที่มีน้ำหนักเบา และเมื่อเคลื่อนย้ายไปทำงานที่ใดจะไม่กระทบกระเทือนรุนแรงมากนักสำหรับอุปกรณ์ชิ้นนี้
ซึ่งในอดีตจะมีความจำแบบฮาร์ดดิส ที่มีน้ำหนักมากและในการเคลื่อนย้ายก็จะทำให้เครื่องเสียหายง่าย
5.ระบบปฏิบัติการ ARM
เป็นระบบใหม่ที่กำลังจะได้รับความนิยม เน้นอยู่ใน Notebook ซึ่งมีน้ำหนักเบา เนื่องจากจะมีอะไรหลายชิ้นหายไป เพราะอะไหล่ต่าง ๆ จะรวมตัวกันกลายมาเป็นชิปเดียว ซึ่งก็คือ ARM โดยที่ชิปนี้ มีการทำงานที่ดีมาก เร็วมาก แบตยาวนานมาก อาจจะดีกว่า Core i9 หรือ RYZEN 9 ในอนาคต และอาจจะพัฒนาเป็นชิปที่อยู่ในทุกอุปกรณ์ด้วย
