“รัฐบาลสหรัฐฯ” กำหนดเส้นตาย TikTok ปิดดีลขายกิจการ ในวันที่ 27 พ.ย.นี้ 

 

            เป็นที่ทราบกันดีว่า รัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน
มีการออกมาตรการต่างๆ เพื่อแบนสินค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และแอพพลิเคชั่นจากประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงแอพพลิเคชั่นยอดฮิตอย่าง TikTok ก็เป็นหนึ่งในแอปที่อาจจะโดนแบนในครั้งนี้ด้วย ล่าสุดทางคณะกรรมการการลงทุนต่างประเทศในสหรัฐอเมริกา (CFIUS) ได้มีการขยายเส้นตายให้กับทาง บริษัท ByteDance เพื่อให้ตัดสินใจว่าจะเลิกกิจการ หรือยินยอมขายกิจการ TikTok ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งกำหนดการใหม่ที่ออกมาจะเป็นวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ โดยจะต้องรอดูกันว่าทางบริษัท ByteDance จะตัดสินใจอย่างไร เกี่ยวกับอนาคตของแอพพลิเคชั่น TikTok ในประเทศสหรัฐอเมริกา

            ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกคำสั่งฉบับที่สอง ให้ทางบริษัท ByteDance ตัดสินใจขายกิจการ TikTok ในประเทศสหรัฐอเมริกา ให้กับทางบริษัทสัญชาติอเมริกัน โดยมีการกำหนดเส้นตายภายในระยะเวลา 90 วันเท่านั้น ซึ่งเดิมทีจะครบกำหนดในวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยทาง “โดนัลด์ ทรัมป์” ได้อ้างว่าแอพพลิเคชั่น TikTok จะเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งมาตรการต่างๆที่ออกมานี้ เปรียบเสมือนการบังคับให้ทางบริษัท ByteDance ต้องตัดสินใจว่าจะขายกิจการ หรือจะยอมเลิกกิจการ ทำให้ทางบริษัท Oracle พยายามเจรจาเพื่อขอซื้อกิจการ TikTok แต่ตอนนี้ยังไม่ประสบความสำเร็จ

วันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางในรัฐเพนซิลเวเนีย ได้ออกคำสั่งระงับมาตรการของรัฐบาล “โดนัลด์ ทรัมป์” ตามกำหนดการเดิมในวันที่ 12 พฤศจิกายน โดยมีการระบุเหตุผลว่าแอพพลิเคชั่น TikTok มีการแสดงออกเกี่ยวกับ ภาพยนตร์ ศิลปะ ภาพถ่าย และฟีดข่าวสาร ซึ่งย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย จากนั้นก็มีการยื่นเรื่องต่อศาลอุทธรณ์เพื่อให้พิจารณาการดำเนินการของคณะกรรมการการลงทุนต่างประเทศในสหรัฐอเมริกา (CFIUS) จนเรื่องต่างๆยืดเยื้อยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน โดยไม่ว่าทางบริษัท ByteDance จะตัดสินใจอย่างไร ก็ย่อมส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของแอพพลิเคชั่น TikTok ภายในประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน

แอพพลิเคชั่น TikTok ถือว่าเป็นแอพพลิเคชั่นที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน มีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นแอพพลิเคชั่นที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆของโลก แต่ดูเหมือนว่าอนาคตของแอพพลิเคชั่น TikTok ภายในประเทศสหรัฐอเมริกา น่าจะไม่ราบรื่นเท่าไหร่นัก เมื่อทางรัฐบาล “โดนัลด์ ทรัมป์” ออกมาตรการที่เข้มข้น เพื่อแบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และแอพพลิเคชั่นจากประเทศจีน ส่งผลให้ทางค่ายผู้ผลิตมือถือยักษ์ใหญ่อย่าง Huawei และแอพพลิเคชั่นยอดนิยมอย่าง TikTok รวมไปถึงบริษัทด้านอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆอีกมากมาย ต้องประสบกับความยากลำบากในการทำธุรกิจภายในประเทศสหรัฐอเมริกา

ตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้ เชื่อว่าสื่อหลายสำนักทั่วโลกจะคอยติดตามสถานการณ์ว่าทางบริษัท ByteDance จะตัดสินใจบรรลุข้อตกลง เพื่อขายกิจการแอพพลิเคชั่น TikTok ในประเทศสหรัฐอเมริกา ให้กับทางบริษัท Oracle ได้สำเร็จหรือไม่ เพราะการยินยอมบรรลุข้อตกลงในครั้งนี้ จะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลของประเทศจีนด้วย หากการเจรจาครั้งนี้ไม่ประสบผลสำเร็จ มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะต้องปิดตัวแอพพลิเคชั่น TikTok ในประเทศสหรัฐอเมริกา หรือไม่ก็ต้องมีการหาข้อตกลงร่วมกันใหม่อีกครั้ง ต้องคอยติดตามกันต่อไปว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร แต่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร ก็ย่อมส่งผลสะเทือนต่อ แอพพลิเคชั่น TikTok อย่างแน่นอน

นอกจากประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว แอพพลิเคชั่น TikTok ยังโดนรัฐบาลของประเทศอินเดียสั่งแบนอีกด้วย พร้อมกับแอพพลิเคชั่นอื่นๆของประเทศจีนอีกเป็นจำนวนมาก ทั้ง WeChat , Shareit , UC Browser , Baidu map และ Mi Community เป็นต้น มีการให้เหตุผลคล้ายๆกับรัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่าแอพลิเคชั่นเหล่านี้เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติและมีความเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัวของพลเมืองอินเดีย น่าติดตามว่าการสั่งแบนแอพพลิเคชั่น TikTok จากสองประเทศยักษ์ใหญ่ของโลกที่มีผู้ใช้งานจำนวนมหาศาล จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของ TikTok มากขนาดไหน หากไม่สามารถหาทางออกร่วมกับรัฐบาลของประเทศเหล่านี้ได้

“รัฐบาลสหรัฐฯ” กำหนดเส้นตาย TikTok ปิดดีลขายกิจการ ในวันที่ 27 พ.ย.นี้