รีวิว iPad Air 

                หลังจากที่แบรนด์ Apple ได้สร้างเสียงฮือฮาจากการปล่อยตัว iPad ออกมาครั้งแรก ทางแบรนด์นั้นก็ไม่ได้หยุดพักที่จะทำการพัฒนาและปรับปรุงจุดอ่อนและจุดบอดที่แท็บเล็ตรุ่น Original มี เนื่องจากในยุคสมัยที่มีการออก iPad ออกมาใหม่ๆ นั้น ยังเป็นช่วงที่เทคโนโลยียังไม่ได้มีความก้าวหน้าและล้ำสมัยเท่ากับในยุคปัจจุบัน ไม่เพียงเท่านั้นเมื่อเวลาผ่านมาเรื่อยๆ ทาง Apple ก็ได้มีการออกชิปใหม่มาอีก ประจวบเหมาะกับการพัฒนา iPad รุ่นใหม่พอดี จนได้ออกมาเป็น  iPad Air เป็นแท็บเล็ตที่ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงปิดจุดด้อยและจุดอ่อนจาก iPad รุ่นเก่าทำให้รุ่นนี้มีประสิทธิภาพในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นยังใส่เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามารวมถึงชิปตัวใหม่ที่ช่วยให้สามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็วและเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รองรับการใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงมากมายไม่ว่าจะมีส่วนของโครงสร้างหรือเทคโนโลยีภายในก็ตาม เริ่มตั้งแต่ในส่วนหน้าจอที่มีการใช้วัสดุที่ช่วยให้สามารถแสดงผลได้อย่างสวยงามและมีความคมชัดของทั้งภาพและสีมากยิ่งขึ้นอย่าง Liquid retina  เมื่อจอสามารถแสดงผลได้ดียิ่งขึ้นก็ช่วยให้เราสามารถใช้งานได้ดียิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ใช้การในการทำงานศิลปะหรือกลุ่มนักออกแบบที่จำเป็นต้องอาศัยความคมชัดและความถูกต้องของทั้งภาพและสีเป็นสำคัญ ขนาดของหน้าจอรุ่นนี้จะอยู่ที่ 10.9 นิ้ว เป็นขนาดที่กำลังพอดีไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไปนัก ช่วยตอบโจทย์การใช้งานให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น ในส่วนของระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลนั้นก็มีการใช้งาน Touch ID ที่หากต้องการจะปลดล็อคหน้าจอต้องทำการสแกนลายนิ้วมือก่อน ดังนั้นข้อมูลของเราจึงมีความปลอดภัยค่อนข้างสูงเลยทีเดียว ชิปที่ใช้ใน iPad รุ่นนี้คือ A14 ไบโอนิค เป็นชิปตัวใหม่ที่ทรงพลังและช่วยให้ iPad สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสูงสุดจากทั้งหมดของชิปในแบรนด์ Apple จะบอกว่ามันเป็นคลิปที่ดีที่สุดที่ Apple พัฒนาออกมาก็ว่าได้ และยังเป็นชิปรุ่นใหม่ที่สามารถตอบสนองการใช้งานเข้ากับเทคโนโลยีที่มีความก้าวล้ำได้เป็นอย่างดี สำหรับใครที่มี Apple Pencil อยู่แล้ว สามารถใช้งานกับ iPad รุ่นนี้ได้เลยทั้ง 2 รุ่น หากมีรุ่นที่ 1 อยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่ และยังสามารถเชื่อมต่อกับคีย์บอร์ดผ่านบลูทูธได้อีกด้วยไม่ว่าจะเป็นตัว Magic Keyboard หรือคีย์บอร์ดบลูทูธอื่นๆ ก็ตาม 

ทั้งหมดที่ว่ามานี้ทำให้มันสามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการจดบันทึกสำหรับผู้ที่กำลังศึกษาอยู่หรือผู้ที่ทำงานแล้ว สามารถใช้วาดรูปสร้างสรรค์งานศิลปะได้อย่างเต็มที่ หรือจะใช้ทำงานเอกสารหรือโปรแกรมอื่นๆ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน จะบอกว่ามันเป็น Notebook ขนาดย่อส่วนก็ว่าได้ เพราะมันยังสามารถทำงานที่ต้องใช้สเปคสูงได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานกราฟฟิกที่ต้องอาศัยความคมชัดเป็นอย่างมาก การทำงานตัดต่อวีดีโอหรือรูปภาพก็สามารถทำงานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุดเช่นเดียวกัน เพราะนอกจากชิปที่ช่วยให้มันสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ยังมีการปรับปรุง CPU ให้มีความเร็วเพิ่มมากขึ้นกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ มันจึงสามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพสามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง LTE และ Wifi  ไม่เพียงเท่านั้นยังช่วยให้สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นถึง 60 เปอร์เซ็นต์ เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชื่นชอบในการเล่นเกมโดยเฉพาะเกมออนไลน์ ที่มักจะประสบปัญหาอินเทอร์เน็ตไม่แรงพอจนทำให้เกิดอาการกระตุกค้างส่งผลให้แพ้ในที่สุด ปัญหานี้จะหมดไปหากคุณเลือกใช้ iPad Air  ไม่เพียงเท่านั้นมันยังเป็น iPad อีกหนึ่งรุ่นที่เน้นไปในเรื่องความสวยงามเป็นอย่างมาก เป็นรุ่นที่มีสีให้เลือกมากที่สุดจำนวนสูงถึง 5 สีด้วยกัน ประกอบไปด้วยสีสกายบลู สีเขียว สีโรสโกล สีเทาสเปซเกรย์ และสีเงิน    

รีวิว iPad Air