
รู้จัก CyberDog หุ่นยนต์น้องหมาประจำบ้านสุดฉลาดจาก Xiaomi
CyberDog ถือเป็นหุ่นยนต์ประเภท “สัตว์เลี้ยง” รุ่นแรกของค่าย Xiaomi ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง Mi MIX 4 เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แม้ว่ารูปร่างหน้าตามันช่างละหม้ายคล้ายกับหุ่นยนต์ Spot ของบริษัท Boston Dynamics ไปสักหน่อย (ที่จริงก็ไม่หน่อย) แต่ก็ต้องบอกว่าเจ้าหุ่นยนต์น้องหมาตัวนี้ถือเป็นอีกหนึ่งไลน์อัพสินค้าใหม่ของ Xiaomi ที่สามารถประกาศศักดาการเป็นเจ้าพ่อวงการเทคโนโลยีของแดนมังกรไม่แพ้แบรนด์ยักษ์ใหญ่ร่วมชาติอย่าง Huawei เลยก็ว่าได้
CyberDog ใช้ขุมพลังสมอง NVIDIA® Jetson Xavier™ NX platform จำนวน 384 แกน
นอกจาก Xiaomi จะเป็นแบรนด์ยอดฮิตของประเทศจีนที่ผลิตภัณฑ์หลักตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านแล้ว ล่าสุดยังได้เปิดตัว CyberDog หุ่นยนต์สัตว์เลี้ยงรุ่นแรกของ Xiaomi เป็นอีกหนึ่งไลน์อัพผลิตภัณฑ์ใหม่ของตัวเองอีกด้วย โดยเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้มาพร้อมรูปร่างหน้าตาที่ช่างละหม้ายคล้ายกับหุ่นยนต์ Spot ของบริษัท Boston Dynamics ที่เปิดตัวไปตั้งแต่ช่วงปลายปี 2019 ขับเคลื่อนการทำงานด้วยขุมพลังสมอง NVIDIA® Jetson Xavier™ NX platform ที่ประกอบด้วยแกนซีพียู CUDA ถึง 384 แกน, Tensor อีก 48 แกน และ Carmel อีก 6 แกน และแกนประมวลผล Deep Learning อีก 2 แกน โดยแกนประมวลผลเหล่านี้จะรับข้อมูลจากเซนเซอร์กว่า 11 ตัว ที่อยู่รอบตัวของเจ้า CyberDog เช่น กล้อง, เซ็นเซอร์ตรวจจับการสัมผัส, เซ็นเซอร์อัลตร้าโซนิก, GPS ฯลฯ ซึ่งจะคอยทำหน้าที่ประมวลผลเพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์
ทั้งนี้ เจ้า CyberDogเคลื่อนไหวได้หลายท่าทาง ไม่ว่าจะเป็นการเดิน 4 ขา เหมือนสุนัขปกติ หรือแม้แต่การตีลังกากลับหลัง และมันยังวิ่งได้ด้วยความเร็วที่ 11.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (แน่นอว่าคงเร็วไม่เท่าน้องหมาจริง ๆ) ยิ่งไปกว่านั้น มันยังมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ Intel RealSense D450 ที่ไว้ตรวจจับความตื้น-ลึกของวัตถุต่าง ๆ ทำให้หุ่นยนต์ตัวนี้สามารถเคลื่อนที่ได้โดยไม่ชนวัตถุหรือสิ่งของต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวมัน และยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับเสียง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสั่งการหุ่นยนต์ตัวนี้ได้ด้วยคำสั่งเสียง รวมทั้งยังมีพอร์ตเชื่อมต่อต่าง ๆ ทั้ง USB-C จำนวน 3 ช่อง และพอร์ต HDMI ที่นักพัฒนาสามารถติดตั้งซอฟแวร์ต่าง ๆ ลงไปในตัวหุ่นยนต์ได้
เจ้าหุ่นยนต์ CyberDog มันไม่ได้เป็นเพียงแค่หุ่นยนต์ของต้นแบบที่พัฒนามาโชว์เล่น ๆ เท่านั้น แต่บริษัทมีเริ่มผลิตสำหรับออกจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะทำการผลิตเพียง 1,000 ตัวเท่านั้น เสนอราคาอยู่ที่ตัวละ 9,999 หยวน หรือประมาณ 51,400 บาท (ไม่รวมภาษี) แต่ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดการวางจำหน่าย และรายเอียดของประเทศที่จะวางจำหน่ายออกมาแต่อย่างใด