
ลิทัวเนียแนะนำประชาชนให้เลิกใช้งานโทรศัพท์มือถือจากประเทศจีน
แม้ว่า ประเทศจีน จะมีการพัฒนาและปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ไปมากแค่ไหนก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วในสายตาของอาณาประเทศก็มองว่าสินค้าที่มาจากประเทศจีนนั้นเป็นสินค้าที่ไม่มีมาตรฐานทั้งเรื่องความปลอดภัยและการใช้งาน หลายประเทศได้มีการ แบนอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือแม้กระทั่ง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จากประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกาที่ถึงขั้นแบน แบรนด์ Huawei กันเลยทีเดียว แต่ไม่ได้มีเพียงแค่สหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่แสดงถึงความกังวลอย่างชัดเจนในกรณีที่ประชาชนในประเทศใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากประเทศจีน เพราะหลายคนมองว่าการกระทำดังกล่าวของสหรัฐอเมริกาเป็นเพียงแค่หนึ่งในขั้นตอนการทำสงครามทางการค้าเท่านั้น
แต่แล้วอีกหลายประเทศก็ได้พิสูจน์ว่าพวกเขายังคงไม่ไว้วางใจสินค้าจากประเทศจีน อย่างเช่นใน ประเทศลิทัวเนีย ที่มีการออกมาแนะนำให้ประชาชนเลิกใช้งานโทรศัพท์มือถือที่มาจากแบรนด์ประเทศจีนโดยเร็ว โดยทางศูนย์ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติและกระทรวงกลาโหมประจำลิทัวเนียได้มีการออกมาเปิดเผยรายงานทดสอบ Smartphone จากประเทศจีนที่สามารถรองรับสัญญาณแบบ 5g ได้ว่ามีความไม่ชอบมาพากลเป็นจำนวนมากและแนะนำให้ประชาชนเลิกใช้โทรศัพท์เหล่านี้
ทางศูนย์ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติและกระทรวงกลาโหมจากประเทศลิทัวเนียได้มีการเผยแพร่ข้อความบนทวิตเตอร์ว่าเราไม่แนะนำให้ประชาชนซื้อหรือใช้โทรศัพท์มือถือจากประเทศจีน หากใครที่ใช้งานอยู่ควรทำการรีบทิ้งโทรศัพท์มือถือให้เร็วที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ เนื่องจากผลการศึกษาพบว่าโทรศัพท์มือถือจาก แบรนด์ Xiaomi นั้นมีการติดตั้งเครื่องมือสำหรับการปิดกั้นเนื้อหาเอาไว้ทำให้สามารถตรวจจับรวมไปถึงปิดกั้นเนื้อหาที่รัฐบาลจีนไม่ประสงค์จะเผยแพร่เป็นจำนวนกว่า 449 รายการแบบอัตโนมัติ
แม้ว่าเครื่องมือเหล่านี้จะถูกปิดใช้งานในภาคพื้นยุโรปแต่ก็อาจสามารถสั่งการระยะไกลได้ทุกเมื่อหากต้องการ ในขณะเดียวกันโทรศัพท์จาก แบรนด์ Huawei ก็มีผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์ว่ามีแอพพลิคเชั่นจำนวนมากที่ไม่พึงประสงค์และเสี่ยงต่อการติดไวรัส ไม่เพียงเท่านั้นโทรศัพท์มือถือจากแบรนด์ดังกล่าวยังสามารถทำการส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ในประเทศสิงคโปร์ได้อีกด้วย