เทคโนโลยี การทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ หรือ Block Chain
เทคโนโลยี Block Chain เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มาแรงในปี 2020 ที่มาทำให้การทำธุรกรรมออนไลน์ต่าง ๆ สามารถทำธุรกรรมข้ามประเทศได้ โดยไม่ต้องมีตัวกลางให้เกิดความล่าช้าหรือการทุจริตโดยมิชอบได้ และด้วยระบบที่ปลอดภัยจึงเป็นที่น่าจับตามองสำหรับนักลงทุนอย่างมาก โดยในยุคปัจจุบันมีผู้บุกเบิกใช้เทคโนโลยี Block Chain ให้เห็นอยู่หลายค่ายยักษ์ใหญ่ ตัวอย่างเช่น Tesla, Microsoft, Facebook เป็นต้น “Block Chain” เปรียบเสมือน generation ที่ 2 ของ internet เรียกได้ว่า เป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่กำลังจะมาเปลี่ยนแปลงโลกยุคใหม่เลยก็ว่าได้
เทคโนโลยี การทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ หรือ Block Chain
เทคโนโลยี “Block Chain” ถูกกำหนดอย่างเรียบง่ายที่สุด ว่าเป็นบัญชีแยกประเภทแบบกระจายศูนย์ที่จะบันทึกที่มาของสินทรัพย์ดิจิทัล ด้วยการออกแบบเป็นรูปแบบบล็อกเชนที่จัดเก็บข้อมูล และนำมาร้อยต่อกันเป็นห่วงโซ่ ส่งต่อข้อมูลที่อยู่ในบล็อก โดยข้อมูลบนบล็อคเชนจะไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งทำให้ข้อมูลดังกล่าวเป็นที่ถูกต้องตามกฎหมายสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การชำระเงิน ความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยจะอธิบายให้ทราบถึงลักษณะการทำงาน และบอกที่มาของ Block Chain รวมถึงคุณประโยชน์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
เปรียบเทียบอย่างง่ายสำหรับการทำความเข้าใจในเทคโนโลยี “Block Chain” คือ เมื่อเราสร้างเอกสารใน Google Doc และแชร์ให้กับกลุ่มบุคคล เอกสารจะถูกแจกจ่าย แทนที่จะถูกคัดลอก หรือโอน สิ่งนี้จะสร้างห่วงโซ่การกระจายแบบกระจายอำนาจ ที่ให้ทุกคนเข้าถึงเอกสารได้ในเวลาเดียวกัน ไม่มีใครถูกกีดกัน และไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงเอกสารได้ ในขณะที่การแก้ไขในเอกสารก็จะถูกบันทึกในแบบเรียลไทม์ ทำให้การเปลี่ยนแปลงมีความโปร่งใสโดยสมบูรณ์ แต่แน่นอนว่า “Block Chain” นั้นมีความซับซ้อนกว่า Google Doc อย่างมาก
จุดเริ่มต้นของการเพิ่มขึ้นของเทคโนโลยี Block Chain คือ Cryptocurrencies หรือ สกุลเงินดิจิทัล (Tokens) เช่น Bitcoin, Ethereum หรือ Dogecoin ที่สามารถใช้เพื่อซื้อสินค้าและบริการ เช่นเดียวกับรูปแบบดิจิทัลของเงินสด, การเข้ารหัสลับที่สามารถใช้ในการซื้อทุกอย่างจากอาหารกลางวันของคุณไปจนถึงสิ่งของที่ใช้ในบ้านของคุณ การเข้ารหัสลับใช้ Block Chain เพื่อทำหน้าที่เป็นทั้งบัญชีแยกประเภทสาธารณะและระบบความปลอดภัยในการเข้ารหัสที่ได้รับการปรับปรุง ดังนั้น ธุรกรรมออนไลน์จะถูกบันทึกและรักษาความปลอดภัยอยู่เสมอ
โดยสรุป “Block Chain” ทำให้ประวัติของสินทรัพย์ดิจิทัลใด ๆ ไม่เปลี่ยนแปลงและโปร่งใส ผ่านการใช้การกระจายอำนาจและการแฮชแบบเข้ารหัส ดังนั้น “Block Chain” เป็นเทคโนโลยีที่มีแนวโน้มที่ดีในโลกยุคออนไลน์ตั้งแต่ปี 2020 จนถึงในปัจจุบัน และปฏิวัติวงการการทำธุรกรรมเป็นพิเศษ เนื่องจากช่วยลดความเสี่ยง ขจัดการฉ้อโกง และนำความโปร่งใสมาสู่การใช้งานที่หลากหลายนั่นเอง
