
iOS เรื่องง่าย ๆ เข้าใจไม่ยาก
วันที่ 29 มิถุนายน 2550 ระบบ iPhone OS ได้มีการเรียกชื่อระบบปฏิบัติการให้สั้นกระชับลงด้วยคำว่า iOS ซึ่งเป็นวันเปิดตัวของ iPhone ยอดฮิต ผลิตภัณฑ์โทรศัพท์ชั้นนำในตำนานที่หลายคนให้ความสนใจอยากจับจองเป็นเจ้าของเพราะบ่งบอกถึงรสนิยมและฐานะ (อันนี้ไม่อวยนะแต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นความจริงในสังคม)
แต่จริง ๆ แล้วมีความสำคัญที่ยิ่งไปกว่านั้น นั่นก็เพราะว่า iPhone ได้เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีมาก่อนในชื่อ Apple ซึ่งมากกว่าการบ่งบอกรสนิยมทางสังคม นั่นคือการถูกมองว่าเป็นผู้ที่จัดอยู่ในการที่มีความทันสมัย ก้าวล้ำก้าวหน้า เนื่องจากมีความรู้สึกว่าเป็นผู้ที่ไม่ได้ออกแบบผลิตภัณฑ์หรือซอร์ฟแวร์ ตามใคร
Apple ได้นำการปฏิบัติงานของ iOS มาใช้กับผลิตภัณฑ์ของตนเอง ทั้ง iPhone iPad macbook ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ออกแบบใช้งานมา เพื่อกลุ่มประชากรแฟนพันธุ์แท้ของตนเท่านั้น เราจึงไม่พบการทำงานระบบ iOS จากอุปกรณ์อื่นทั่วไป ที่อยู่นอกครือแอปเปิ้ลได้เลย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะเจ้าตัว iOS ยังไม่เคยถูกขายโปรแกรมให้กับใคร
เนื่องจากทุกวันนี้การพัฒนาอุปกรณ์สื่อสารและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ถูกลอกเลียนการใช้งานจนคล้ายกันหมด ทำให้คุณค่าของสินค้าแทบไม่มีจุดขายที่ต่างกันมากนัก ส่วนใหญ่จึงเป็นการแข่งขันในเรื่องของรูปลักษณ์ศิลปินที่ใช้โฆษณา และราคา
ดังนั้นแอปเปิ้ลจึงยังคงเลือกที่จะรักษาความเป็นอัตลักษณ์ของตนเองเอาไว้ ด้วยการใช้ระบบการทำงานที่ต่างจากผู้อื่นและเป็นรายเดียวที่มีปฏิบัติการ iOS ซึ่งเป็น ซอร์ฟแวร์ที่สร้างขึ้นมาเอง ไม่ได้ซื้ลิขสิทธิ์จากใครอื่น ผู้ที่ครอบครองระบบ iOS จึงเหมือนกับว่าได้ซื้อสินค้า collection ที่จำกัดจำนวนและหายาก ลอกเลียนแบบยาก
ยกตัวอย่างง่าย ๆ คือเหมือนเรามีสินค้าที่มีประโยชน์สักชิ้นหนึ่ง จะดีแค่ไหนถ้าสินค้าชิ้นนั้นมีเอกลักษณ์ที่เป็นสินค้าแบรนด์อื่นไม่มี แล้วก็เลียนแบบได้ยาก ขโมยได้ยาก แม้จะมีราคาสูงแต่คุ้มค่าและมีเอกลักษณ์ที่ใครก็นำไปจากเรายาก
ในเรื่องของการใช้งานระบบ iOS ส่วนใหญ่ต้องเป็น Application ที่ถูกลิขสิทธิ์บางคนมองว่าซื้อสินค้าที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS ในราคาแพงแล้ว ยังต้องซื้อการใช้งานแอปพลิเคชันอื่น ๆ ใน iOS ด้วยเงินอีกหรือ ทำไมเมื่อจ่ายราคาแพงแล้วไม่ได้รับการบริการอื่น ๆ ตามมาฟรี ๆ ง่าย ๆ บ้าง คำตอบคือนี่แหละคือความเป็น iOS เพราะ iOS ต้องการบอกเป็นนัยยะว่าผู้ครอบครองสินค้าในเครือ Apple เป็นผู้ที่ปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องตามมารยาทในสังคม
ในส่วนการใช้งานที่บางคนอาจยังมองว่ายุ่งยากซับซ้อน เช่นการใช้งานระบบ iOS 14 ไม่สามารถนำมาเปิดใช้งานร่วมกับ iOS 13.5 ใน iPhone ได้นั้นต้องเปิดใน mac เท่านั้นคือจะใช้ได้ นั่นเป็นเพราะความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีป้องกันการเลียนแบบ ป้องกันการเอาเปรียบจากอีกคนหนึ่งต่ออีกคนหนึ่ง หากต้องการข้อมูลจริง ๆ คุณต้องใช้อุปกรณ์ที่ถูกลิขสิทธิ์ตามที่ Apple กำหนด จึงจะสามารถทำได้ ซึ่งตรงนี้บ่งบอกถึงอะไร ก็บ่งบอกถึงศักยภาพในการรักษามาตรฐานการดูแลของ iOS ยังไงล่ะ ทั้งถูกลิขสิทธิ์ ถูกต้อง และยังรักษาข้อมูลของผู้ที่ครอบครองอุปกรณ์ ที่ใช้การทำงาน iOS ได้เป็นอย่างดี
ระบบ iOS เป็นมากกว่าการตั้งรหัสเข้าแผ่นฟอร์มต่าง ๆ เป็นมากกว่าการจดจำลายนิ้วมือในการเปิดปิดหน้าจอมือถือ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้
การใช้งานที่ iOS ออกแบบมาค่อนข้างละเอียดอ่อน หากมองผิวเผินจะดูเหมือนว่าสินค้านี้ถูกออกแบบมาสำหรับคนรวยนั้น เป็นแค่เหตุผลพลอยได้ แต่ความจริงหากมองให้ลึกลงไป iOS ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการ ไม่โดนเอาเปรียบทางการใช้งานของผู้ใช้งานเองและรักษาผลประโยชน์ของผู้ใช้งานเองต่างหากเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด